ช่วงหยุดยาวที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเยือนคันไซอีกครั้งครับ (หลายครั้งแล้วนะปีนี้) คราวนี้ไปเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆ อีกสามคนครับ เป็นครั้งที่ไปเยือนยาวอีกครั้งครับคือไปอยู่สิบวัน (แต่ใช้วันลาแค่สามวันเอง เย่ \0/ ) ไปที่เดิมคือลงเครื่องที่สนามบินคันไซ ครึ่งแรกใช้โอซาก้าเป็นที่ตั้งเที่ยวโอซาก้า โกเบ นารา แล้วย้ายไปเกียวโตเพื่อเที่ยวอีกครึ่งทริปที่เหลือ จึงกลับทางคันไซแบบเดิมครับ ขอสรุปไว้ก่อนนะครับ
Archive for 2015
สรุปทริปคันไซ ธันวาคม 2558
เปิดกระเป๋ายาเวลาหมอไปเที่ยว เอาอะไรติดตัวไปบ้าง
ผมสังเกตว่าช่วงนี้มีหลายเว็บที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแนะนำในเรื่องของการพกยาไปเที่ยวว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง แต่คำแนะนำนั้นส่วนมากไม่รู้ว่ามีที่มามาจากไหน และก็ไม่รู้ว่าคนที่แนะนำเนี่ยเป็นบุคลากรทางการแพทย์จริงหรือเปล่า ผมเลยคิดว่าในฐานะที่ผมเองก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ให้คำแนะนำคนไข้มาประมาณนึงแล้วก็ชอบเที่ยวด้วย น่าจะเขียนไว้ว่าเวลาผมเที่ยวเองนั้นผมเตรียมยาอะไรบ้างครับ
สะพายกล้องท่องญี่ปุ่น: พาไปกินเนื้อโกเบ
ผมเขียนสรุปทริปญี่ปุ่นมาก็หลายรอบแล้ว ยังไม่ได้ลงเจาะลึกอะไรเลยสักรอบ คราวนี้จะขอพาไปเจาะลึกในรายละเอียดบ้างละกันนะครับ ตอนแรกจะขอพาไปกินเนื้อโกเบอันเลื่องชื่อละกันครับ
ก่อนอื่นเลยถ้าเราจะไปกินเนื้อโกเบ ต้องเดินทางไปถึงที่โกเบก่อนนะครับ เมืองโกเบ (神戸 ภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า โคเบะ こうべ) หากเดินทางมาจากโอซาก้า สามารถมาได้ทางรถไฟครับ ผมเลือกมาด้วยสายรถไฟ JR Kobe Line ซึ่งขึ้นที่สถานี JR Osaka ครับ จริงๆ จะมาทางสายรถไฟเอกชน Hankyu Line หรือ Hanshin Line (แต่จะช้ากว่านิดหน่อยประมาณสิบห้านาที) หรือจะนั่งชิงกันเซ็นมาก็ได้ครับ (แต่แพง และไม่ถึงย่านสำคัญ) โดยย่านที่เป็นตัวเมือง ร้านรวงเยอะๆ จริง นั้นไม่ใช่สถานีโกเบนะครับ เป็นสถานี Sannomiya (三ノ宮) ครับ
เนื้อโกเบ (Kobe Beef) เป็นเนื้อที่ขึ้นชื่อกันอยู่แล้ว ใครมาโกเบก็นิยมมาทานกันครับ จริงๆ ร้านที่นิยมในตัวเมืองโกเบเองก็มีหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้าน Steak Land ยอดฮิตของคนไทย หรือร้านอื่นๆ แต่วันนี้ ผมลองมาทานที่ร้าน Ishida ซึ่งมีลักษณะเป็นร้านเทปันยากิ มีหลายสาขาในโกเบครับ
สาขาที่ผมมาทานเป็นสาขาหลักครับ (Honten) จริงๆ ถ้ากังวลว่าจะไม่มีที่นั่งควรต้องทำการจองก่อนนะครับ ผมให้เพื่อนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นคนโทรไปจองให้ (ให้ชื่อเขาเป็นภาษาอังกฤษ) แต่เนื่องจากวันที่ผมไปเป็นวันธรรมดา และผมไปก่อนร้านเปิด (ผมไปถึง 11 โมง ร้านเปิด 11.30) ก็เลยแทบไม่มีคิวเลยครับ ถ้าใครมาวันธรรมดา และมาตอนร้านเปิดใหม่ๆ น่าจะไม่ต้องรอนานครับ (อันนี้แผนที่ใหญ่นะครับ)
สถานที่ร้าน ยอมรับว่ามาตอนแรก หลงครับ ไปถึงเป็นอีกสาขา แถมต้องถามคนแถวนั้นซึ่งเขาก็ดูงงๆ ถ้าใครจะมาสาขานี้ ให้สังเกตตึกสูงลักษณะนี้ครับ ตัวร้านจะอยู่ที่ชั้นสามครับ (มองดีๆ ที่ชั้นสามมีเขียนชื่อร้านครับ)
เมื่อเราเดินเข้ามาในร้าน พนักงานต้อนรับจะเชิญมานั่งที่เค้าเตอร์ครับ ผมสังเกตว่ามีห้องส่วนตัวเล็กๆ ด้วยสองห้อง ถ้ามาสักเจ็ดแปดคน น่าจะปิดห้องส่วนตัวเลยก็ดีครับ แต่ผมมาคนเดียว เลยต้องนั่งกับชาวบ้านเขา (มีชาวจีนคู่นึง กับคนไทยอีกสามคนมานั่งตอนหลัง ซึ่งคงไม่รู้มั้งว่าผมแอบฟังเขาเม้าอยู่ 55)
ที่เค้าเตอร์ พนักงานจะแจกผ้ากันเปื้อนให้ใส่ครับ เสื้อจะได้ไม่เลอะนะครับ หลังจากนั้น ก็จะเอาเมนูมาให้ดู ซึ่งแน่นอนตามสไตล์ร้านอาหารในญี่ปุ่น อาหารกลางวันจะถูกกว่าอาหารเย็นมาก ร้านนี้ก็มีเมนูอาหารกลางวันครับ ซึ่งเป็นเซตเนื้อโกเบในราคาไม่แพงมากครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เนื้อที่จะเป็นเนื้อโกเบได้นั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพของเนื้อครับ และเนื้อที่ร้านนี้ใช้เป็นเนื้อจากฟาร์มในโกเบเองด้วยครับ นอกจากนี้แล้ว จะมีการแบ่งเกรดของเนื้อตามลายไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อครับ ยิ่งมากจะยิ่งเป็นเนื้อเกรดสูงครับ โดยเต็มที่จะอยู่ที่เกรด A5 ครับ
ราคาของเซ็ตเนื้อแบบ A5 นั้นอยู่ที่ประมาณ 8,000 เยนครับ (เงินไทยก็เกือบสามพันบาท) สำหรับคนเบี้ยน้อยแบบผมก็เลือกแค่แบบ A4 ครับ .. จริงๆ คือเคยกินมาแล้วและรู้สึกว่าเนื้อ A5 มันมีความมันมากกกกกก แถมวันที่ไปก็อากาศร้อนมากกกก กลัวจะมันจุกอกตายอยู่หน้าสถานี เลยเอาแค่เซ็ตแบบ A4 มาทานครับ ราคา 5,800 เยน ในเมนูมีเพิ่มนื้ออบด้วยครับ (Roasted Beef) เพิ่มอีกแปดร้อยเยน ผมเลยเอามาลองด้วยครับ สรุปแล้วก็ประมาณสองพันบาท (กินสี่ห้าครั้งก็เท่ากับค่าเครื่องบินแล้ว)
สักพักนึงคุณพนักงานก็จะเอาเนื้ออบมาเสริฟก่อนครับ เป็นเนื้ออบสุกกำลังดี ราดมาด้วยซอสพริกไทยหลากสีแบบญี่ปุ่นรสชาติจัดจ้าน แถมสังเกตดีๆ นะครับ ในเนื้อที่อบแล้วนี่ยังคงลายไว้อย่างสวยงามเลยครับ กินแล้วอร่อยสุดๆ ไปเลยครับ เอาไปห้าดาวเลย แต่มีแค่สามชิ้นเองง่า.. 800 เยนตรู ชิ้นละสองร้อยเยนเลยเรอะ
หลังจากนั้นคุณพนักงานจะเอาเนื้อมาตั้งให้ดูครับ ว่าเราจะได้กินเนื้อชิ้นนี้ ลายแบบนี้นะครับ ซึ่งไม่ต้องมีคำอธิบายครับ ลายมันในเนื้อมันเยอะมาก ซี้ด... ลืมบอกไปว่าเนื้อในชุดนี้จะมีขนาด 150 กรัมครับ
แล้วคุณพนักงานก็จะเอาสลัดมาให้เรากินคั่นเวลาก่อนครับ สลัดผักธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษครับ แต่ก็ใช้ล้างปากเพื่อเตรียมตัวกินเนื้อชุดใหม่ได้ครับ
พอจะเริ่มกิน เชฟที่เป็นคนทำเทปันให้เราจะมาถามครับ ว่าเราต้องการให้เนื้อสุกระดับไหน ปกติผมชอบเนื้อแห้งๆ แบบ Well Done แต่ไหนๆ ก็มาแล้วอยากจะลองชิมเนื้อแบบชุ่มฉ่ำ มันแทรกนิดๆ เลยขอลองความสุกในระดับ Medium ละกันครับ
เชฟก็จะเริ่มเอาเนื้อของเราส่วนหนึ่งมาทำให้ทานก่อนครับ คิดว่าน่าจะประมาณ 120 กรัมได้มั้ง ประมาณ 3/4 ชิ้นครับ โดยทำการย่างบนเตาเทปันร้อนๆ กลิ่นเนื้อเวลาโดนเตาร้อนๆ มันหอมมากเลยครับ ตอนนั้นกลืนน้ำลายเอื้อกๆ เลย
คุณเชฟจะเอาเนื้อมาเสริฟให้เราบนจานที่อยู่หน้าเราอีกทีครับ โดยเชฟแนะนำว่า สำหรับเนื้อ ให้จิ้มกับเกลือธรรมดา, เกลือญี่ปุ่น และพริกไทยครับ หรือใครจะจิ้มกับมัสตาร์ดก็ได้ครับ แต่ผมว่าจิ้มกับเกลือธรรมดานี่แหละครับ อร่อยดี
ซูมให้เห็นกันจะๆ นะครับ เนื้อโกเบ ทานกับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ มันฟิน..
หลังจากนั้นเชฟก็จะทำเครื่องเคียงย่างมาให้เรากินครับ ได้แก่ มันฝรั่ง มะเขือ ก้อนบุก (คอนยัค) โดยแต่ละอันก็สามารถเลือกจิ้มกับเกลือ หรือมีน้ำจิ้มพอนซึเปรี้ยวๆ ตัดรสให้เข้ากันได้ครับ
พอเรากินหมดชุดแรกแล้ว เชฟก็จะทำชุดที่สองที่เหลืออยู่ครับ และสำหรับชุดที่สองนี้ เชฟจะเอาถั่วงอกไปผัดให้เรากินคู่กันครับ (แต่รสก็เหมือนผัดถั่วงอกที่บ้านธรรมดา..)
หลังจากที่กินแล้วผมพบว่า เนื้อขนาด A4 นี่ก็ยังเลี่ยนอยู่ดีครับ ใครชอบมันๆ คงจะชอบ แต่สำหรับผมที่ชอบไม่ได้มันมาก ผมว่าคราวหน้าอาจจะขอขนาดลดลงเป็นชุดเล็ก 120 กรัมน่าจะพอเหมาะกว่าครับ
เมื่อเรากินเสร็จแล้ว ก็จะมีไอศครีมเชอเบตสตรอเบอรี่มาล้างปาก กับชามะนาวครับ ผมพบว่ามันช่วยตัดเลี่ยนจากเนื้อมันๆ ได้ดีเลยครับ ไอศครีมเขาก็อร่อยดีครับ
ใครที่ชอบเนื้อ น่าจะชอบร้านนี้นะครับ ถ้าได้มีโอกาสมาโกเบ และต้องการมาให้ถึงที่ด้วยการกินเนื้อโกเบ ร้านนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ คุ้มราคา อิ่มมาก
สรุปทริปโกเบ กรกฎาคม 2558
ช่วงวันหยุดสามสี่วันที่ผ่านมา ผมไปเที่ยวมาอีกแล้วครับ ให้ทายว่าที่ไหนครับ.. ญี่ปุ่นอีกแล้ว (ไม่ต้องคิด) ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเที่ยวคนเดียวแถวคันไซครับ เนื่องจากผมอยากลองมาเที่ยวคนเดียวเองดูมั่ง บวกกับกดโปรแอร์เอเชียไปกลับได้เก้าพันกว่าบาท เลยมาครับ ขอสรุปทริปนี้ไว้ก่อนดังนี้นะครับ
สรุปทริปญี่ปุ่นสงกรานต์ 2558
- ออกเดินทางจากที่รามา มาแวะเอาสัมภาระ แล้วไปยังสนามบินสุวรรณภูมิด้วย Airport Link
- ขึ้นเครื่องบินจากสุวรรณภูมิโดยสายการบินเวียตนามแอร์ไลน์ครับ ออกจากกรุงเทพ 18 น. มาต่อเครื่องที่สนามบินนอยไบ กรุงฮานอย ประเทศเวียตนาม แล้วขึ้นต่อไปลงที่สนามบินจูบุ (นาโกย่า) ครับ
- ข้าวเย็นบนเครื่องใช้ได้ แต่เครื่องบินเล็ก โดยเฉพาะตอนบินจากฮานอยไปนาโกย่า บินผ่านฝนที่ความสูงไม่มากนี่เครื่องสั่นน่ากลัวมากครับ
- เดินทางถึงสนามบินชูบุ (Chūbu Centrair International Airport) ประมาณ 6 โมงเช้าครับ คนต่อคิวตรวจคนเข้าเมืองไม่มาก แค่ครึ่งชั่วโมงจากตอนเครื่องลงก็ออกมาได้แล้วครับ
- แวะ ซื้อ Kintetsu Rail Pass ที่เคาน์เตอร์ในสนามบินครับ ที่ Meitetsu Traval Plaza ใครจะซื้อให้ออกมาตรงสถานีรถไฟนะครับ จะอยู่ด้านขวาของเกทเข้าสถานทีรถไฟเลยครับ
Posted in Japan, Kawaguchi-ko, Matsumoto, Nagoya, Osaka, Sanrio Puroland, Tokyo
5 เหตุผลที่ ResearchKit ยังคงเป็นเพียงของเล่นไว้เพิ่มมูลค่าไอโฟน
เมื่อคืนนี้ Apple ได้เปิดตัว Research Kit โดยโฆษณาว่ามันเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยนักวิจัยด้านการแพทย์ (Medical Research - บางทีเราจะใช้คำว่า Clinical Research ในกรณีที่เก็บคนไข้ที่เป็นคนจริงๆ เพราะ Medical Research นี่รวมทดลองทางการแพทย์ในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองด้วย) เพื่อนำไปในการเก็บข้อมูล และเพิ่มจำนวนคนที่สมัครใจเข้าร่วมงานวิจัย ผมในฐานะที่คลุกคลีอยู่กับวงการวิจัยทางการแพทย์ ขอแสดงความเห็นส่วนตัวจากคนที่เคยทำงานวิจัยมาบ้างเล็กน้อย ดังนี้ครับ
Posted in clinical research, electronic data capture, iphone, medical research, research, research kit
สรุปทริป ฮอกไกโด กุมภาพันธ์ 2558
ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นอีกครั้งแล้วครับ (ช่วงนี้ถี่หน่อย แฮะๆ) ครั้งนี้เป็นทริปที่แพลนโดยเพื่อน ส่วนผมไปจอยเขาเฉยๆ ไม่ได้วางแผนการเที่ยวเองครับ แต่ก็แพลนไว้ได้ดี ได้เที่ยวหลายที่แทบไม่มีวันไหน fail เลย ทริปครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ไปฮอกไกโดครับ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่นโดยไม่ได้แวะโตเกียวเลยครับ ก็เลยขอลองสรุปทริปครั้งนี้ไว้นะครับ
วันแรก กรุงเทพ-สนามบินชินชิโตเสะ-ฮาโกดาเตะ
Posted in Asahikawa, Hakodate, Hokkaido, Japan, Kiroro, Otaru, Sapporo, Snow festival, travel, trip, Winter festival
สรุปทริป โยโกฮาม่า ปีใหม่ 2558
ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาอีกแล้วครับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คราวนี้ผมไปคนเดียวล้วนๆ เพราะว่าตอนแรกนัดเพื่อนที่โน่นไว้ แล้วพอดีเขาเปลี่ยนใจจะกลับเมืองไทยตอนที่ผมจะไปพอดี แต่ก็คิดไว้แล้วว่าจะไปพักกับบ้านคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่เป็นญาติห่างๆ ซึ่งแกเป็นพ่อกับแม่ของสามีของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องผมครับ