ช่วงกลางเดือนที่แล้วผมได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งครับ คราวนี้ไปแบบสั้นๆ เนื่องจากจริงๆ คืออยากจะไปเปลี่ยนบรรยากาศ เพราะรู้สึกเบื่อๆ อยากดูโตเกียวตอนใบไม้ร่วงบ้าง แล้วก็อยากจะช็อปปิ้งสักนิดหน่อย บวกกับกดตั๋วของ Cathay Pacific มาได้หมื่นกลางๆ กับไปนอนค้างบ้านญาติห่างๆ ที่โน่นก็เลยไปครับ

วิวโตเกียวในฤดูใบไม้ร่วง มองจากตึก Tokyo Metropolitan Building

วันแรก 9 ธ.ค. 2559 สุวรรณภูมิ - โยโกฮาม่า

• เนื่องจากว่ารอบที่แล้วเมื่อเดือนสิงหาไป Hong Kong Airlines แล้วปรากฎว่าดีเลย์ไปหกชั่วโมง ครั้งนี้เลยลองสายการบินหน้าใหม่จากฮ่องกงบ้างคือ Cathay Pacific ดูครับ (เพราะมันถูกกว่า Direct Flight น่ะนะ)
• ครั้งนี้ลองเลือกลงฮาเนดะเป็นครั้งแรก เนื่องจากบ้านญาติอยู่โยโกฮาม่า ไปจากฮาเนดะจะสะดวกกว่าลงนาริตะมากๆ นอกจากนี้แล้วเมื่อคราวก่อนคุณลุงเคยบอกไว้ว่าถ้าเลือกได้ลงฮาเนดะดีกว่า เผื่อถ้ามีปัญหาอะไรลุงจะได้ไปรับสะดวกกว่า
• ปรากฎขึ้นครั้งแรกก็เจอปัญหาอีกแล้ว ตอนไปเช็คอินที่เค้าน์เตอร์ณ สุวรรณภูมิ จนท บอกทันทีว่า ไฟลท์ดีเลย์ จะเปลี่ยนตั๋วเป็นของการบินไทยให้นะครับ ขอโทษด้วย (โดยที่ผมไม่ต้องพูดอะไรเลยครับ นับว่าดีกว่าตอนที่ไปดีเลย์ที่ฮ่องกงของ Hong Kong Airlines ที่ปล่อยให้เราลอยเท้งเต้งมากๆๆๆ) แต่ก็นั่นแหละ สงสัยผมจะไม่ค่อยถูกกับการบินมาต่อเครื่องที่ฮ่องกงนะเนี่ย รอบนี้ไม่ได้ซื้อประกันครับ เพราะเมื่อรอบที่แล้วซื้อประกันแต่ปรากฎดีเลย์ไม่ถึงหกชั่วโมงก็เคลมไม่ได้อยู่ดี -.-
• สรุปคือขาไปเลยได้นั่งการบินไทยบินตรงแทน ไม่ต้องแวะที่ฮ่องกงตามแผนการเดิม คราวนี้เลยได้ลองนั่ง 747 ของการบินไทยจากโตเกียวไปฮาเนะดะครับ พบว่าเครื่องก็ยังใหม่อยู่ครับ รายการทีวี หนังแบบเดิมๆ อาหารแบบเดิมๆ
• ปรากฏเลยต้องนั่งแกร่วรอการบินไทยที่สุวรรณภูมิสามชั่วโมง จริงๆ กลับบ้านมางีบก่อนก็ยังทัน แต่ผมขี้เกียจเลยช็อปปิ้งกับนั่งในเล้าจ์กินฟรีของคิงพาวเวอร์
• ไปถึงที่ฮาเนดะตอนสี่ทุ่มครับ (ต่างจากของเดิมไม่มากเพราะตามกำหนดการก็ต้องต่อที่ฮ่องกงประมาณ 1 ชม. อยู่แล้ว) ขาเข้านี่รีบเลยครับเพราะรถไฟ Keikyu ที่วิ่งตรงจากฮาเนดะไปโยโกฮาม่าโดยตรงรอบสุดท้ายประมาณห้าทุ่ม ไม่งั้นต้องนั่งรถไฟหวานเย็น แบบว่าไฟลท์จากกทม. ไปญี่ปุ่นนี่รถไฟรอบสุดท้ายทุกทีเลยเหรอไงเนี่ย.. โชคดีได้ใช้ IC Card ที่ยังพอมีเงินรีบวิ่งขึ้นรถไฟไปก่อนได้เหมือนเดิมครับ ถ้าเสียเวลานั่งซื้อตั๋วไม่ทันแน่นอน
• ปรากฎว่าพอขึ้นรถไฟมีแต่ลุงๆ ซาลารี่มังกินเหล้ากลิ่นหึ่งขึ้นรถไฟเต็มคัน (แหงหละ มันค่ำวันศุกร์) ยังดีผมนั่งจากต้นสายมีทีนั่งหน้ารถสุดอยู่ในมุมเงียบๆ นั่งดูทางไป
• ต่อรถไฟที่สถานีโยโกฮาม่า ปรากฎว่ารถไฟ JR ที่ไปแถวบ้านลุงดันดีเลย์อีก T_T (รู้งี้ไปรถใต้ดินดีกว่า) พอดีเลย์แล้วคนค้างที่สถานีเพียบเลยครับ ได้เบียดเสียดกับประชากรล้านแปดกับกระเป๋าเดินทางจนกว่าจะถึงแถวบ้าน
• คุณลุงใจดีพอรู้ว่ามาลำบากเลยขับรถมารับที่สถานีรถไฟแทนเลยครับ ต้องขอขอบคุณคุณลุงมากๆ
• ถึงที่พักที่บ้านลุง อาบน้ำนอน สบายดีครับ

วันที่สอง 10 ธ.ค. 2559 คามะคุระ - คริสตมาสในโตเกียว

• ตื่นเช้ามากินข้าวเช้าบ้านคุณลุงครับ คุณป้าทำอร่อยเหมือนเคยเลยครับ ดีใจ
• ตอนแรกผมก็ไม่มีโปรแกรมเที่ยวอะไรมาก แต่พอตอนมาถึงที่นี่ปรากฎว่าอากาศดีมากครับ เลยตัดสินใจออกตามหาใบไม้เปลี่ยนสีแทน ผมเคยดูใบไม้เปลี่ยนสีแต่ที่เกียวโต ยังไม่เคยมาแถวคันโตหน้าใบไม้ร่วงเลย พอค้นๆ พอเห็นว่ายังมีบ้างแถวคามะคุระ ซึ่งไม่ไกลจากบ้าน
• จริงๆ คามะคุระนี่เคยแวะมาทีหนึ่งตรงวัดที่มีพระใหญ่ เมื่อสองปีก่อนระหว่างทางไปเอะโนะชิมะ แต่ไม่ได้ไปเดินพวกวัดเล็กๆ เลยคิดว่าครั้งนี้มาเก็บตกดีกว่า
• นั่งรถไฟมาที่สถานี Kita-kamakura ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่อยู่ก่อนถึงคามะคุระป้ายหนึ่งครับ แถวนี้จะมีวัดเยอะ มีทางเดินสำหรับคนชอบ Hiking ด้วย
• แวะวัดแรกคือ เอ็นกาคุจิ 円覚寺 ก็ได้พบใบไม้เปลี่ยนสีเลยครับ แต่ก็เริ่มโรยบ้างแล้ว

ประตูวัดสวยดี ตอนไปไม่ค่อยมีคนเนื่องจากยังเช้าอยู่ครับ

เย้ ใบไม้แดง

สงบดี แต่ตอนที่ไปมีลมพัดมาทีก็หนาวทีเหมือนกันนะ

ด้านหลังเป็นป่าใบไม้แดง

• หลังจากนั้นก็เดินเลียบมาวัดข้างๆ คือเคนโชจิ 建長寺 ครับ

ซุ้มประตูข้างหน้าสวยดีครับ

ซุ้มประตูของวิหารข้างในตัดกับใบไม้แดงข้างหลังสวยดี

เพดานข้างในก็สวย

หลังวัดมีทางขึ้นเขาให้ชมวิวด้วยครับ แต่แดดแรงใช้ได้เลย

• แล้วก็แวะมาศาลเจ้า Tsurugaoka Hachiman-gu 鶴岡八幡宮
• ซึ่งคนมากมายมหาศาลมากครับ เลยแวะแป๊บเดียว

วันที่ไปมีคนมาถ่าย Pre-wedding หลายคู่เลยครับ

• หลังจากนั้นก็กินซูชิกับเดินเล่นนิดหน่อยในละแวกสถานีคามะคุระครับ
• เนื่องจากครั้งก่อนมาช่วงปีใหม่แล้วปรากฎว่าโตเกียวค่อนข้างเงียบ เลยลองหาๆ ดูพบว่าในโตเกียวจะมีงานประดับไฟในช่วงคริสตมาสแทนครับ (ซึ่งประดับถึงแค่ 25 ธ.ค. กันหมดเลยนะคือมาปีใหม่ก็เก็บไปหมดแล้ว) ผมเลยลองหาดูว่าจะมีที่ไหนประดับไฟบ้าง ก็พบว่ามีที่ Yebisu Garden Place ครับ
• นั่งรถไฟสาย Shonan-Shinjuku line จากคามะคุระมาลงที่สถานี Ebisu ครับ
• เดินดูไฟคริสตมาสแถวนั้นครับ

ต้นคริสตมาสสวยดีครับ แต่คนก็เยอะมากเช่นกัน

ตอนไปมีร้องเพลงคริสตมาสกันด้วยครับ

• กลับบ้าน กินข้าวบ้าน

วันที่สาม 11 ธ.ค. 2559 ชินจูกุ - ช็อปปิ้ง

• ผมนั่งรถเมล์จากแถวบ้านมาลงสถานี Ichigao ซึ่งเป็นสถานีนอกๆ เมืองหน่อยของสาย Tokyu Den-En-Toshi ครับ
• จากสถานีผมนั่งรถไฟเข้าเมืองครับ มาลงสถานี Aoyama-Itchome 青山一丁目 โดยผมตั้งใจจะมาดูต้นแป๊ะก๊วยที่เมจิจิงกูไกเอ็น (สวนนอกของศาลเจ้าเมจิจิงงู) 明治神宮外苑 ครับ
• เดินเล่นดูแป๊ะก๊วยที่ร่วงหมดแล้ว (ยังดีเหลืออยู่ต้นนึงด้านในสุด 55555555)

• เดินมายังสถานีชินาโนะมาจิ 信濃町駅 ที่เป็นฉากในเรื่อง Kimi No Na Wa ปรากฎป้ายดันไม่เหมือนในเรื่องอีก -_-

เอาน่า คล้ายๆ พอถูไถ

• นั่งรถไฟมาที่สถานีชินจูกุครับ
• เดินมาดูวิวที่ Tokyo Metropolitan Building (ฟรี) ครับ

หอข้างบนมีด้านเหนือกับด้านใต้ครับ ผมว่าด้านใต้มันเห็นวิวหลายจุดมากกว่าเลยไม่ได้ขึ้นของด้านเหนือครับ

อันนี้มองเห็นตึกสูงๆ ย่านสถานีโตเกียว (ด้านกลางซ้าย)

อันนี้เห็นสวนเมจิจิงงู

• หลังจากนั้นผมก็นั่งรถไฟใต้ดินสาย Oedo Line มาต่อสาย Ginza แล้วลงที่สถานี Ueno-Okachimachi 上野御徒町駅
• แวะซื้อของฝากที่บ้านที่ร้าน Takano Select (ตึกม่วง)
• เดินเล่นย่าน Kappabashi ของโตเกียวซึ่งขายของพวกของใช้ในครัวครับ ได้หินลับมีด Zwilling มาก้อนหนึ่ง (Twin Stone Pro) ในราคา 5000 เยน จากช็อปของ Zwilling เองเลยครับ
• หลังจากนั้นก็ค่ำแล้ว ผมเลยไปเดินเล่นที่ย่านกินซ่าครับ
• นั่งกินข้าวในร้านที่เปิดใหม่ของตึก Ginza Place ตึกที่เพิ่งเปิดใหม่ของกินซ่าเมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมาครับ ร้านชื่อ Ramo Frutas Cafe ラモ フルータス カフェ

ตึกนี้แหละเปิดใหม่ มีโชว์รูมนิสสันอยู่ข้างล่างนะครับ อยู่ตรงแยกกินซ่าเลย ร้านอยู่ชั้นสาม

วิวสุดยอดมากกก นั่งริมหน้าต่างมองเห็นคนเดินไปบนถนนย่านกินซ่าที่ประดับประดาด้วยต้นคริสต์มาสครับ

• อร่อยดี ราคาก็ไม่แพงมากครับผมกินสลัดกับแซนด์วิชเบคอนมื้อนี้พันห้าถึงสองพันเยนได้มั้ง
• นั่งรถไฟกลับบ้านครับ

วันทีสี่ 12 ธ.ค. 2559 ช็อปแถวบ้าน - กทม

• วันนี้มาช็อปปิ้งแถวบ้านครับ เพราะเครื่องบินออกสี่โมง ช่วงเช้าเลยมีเวลาช็อปปิ้งเล็กน้อย
• เดินห้าง Lalaport Yokohama ครับ ซื้อของฝากด้วย
• เสร็จแล้วกลับบ้านมากินข้าวเที่ยงครับ
• พอบ่ายโมงคุณลุงก็มาส่งที่สถานี Center-Minami ครับ ซึ่งมีรถโค้ช Airport Limusine ราคาไม่แพง (พันเยน) จากสถานีไปส่งที่สนามบินฮาเนะดะเลยครับ
• จากฮาเนะดะก็มาแวะที่ฮ่องกงครับ (คราวนี้ไม่ได้อัพไปการบินไทยแล้ว 5555)
• พอจากฮ่องกงก็มาถึงกทม. โดยสวัสดิภาพครับ :D