Professionalism for MD

วันก่อนได้มีโอกาสฟัง ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์ (อ.อ้อ จาก The Weakest Link นั่นเองถ้าจำกันได้) แกมาบรรยายเรื่อง Professionalism for Medical Doctors คิดว่ามีประโยชน์ดี เอามาแบ่งปันกัน


แกเล่าว่ามีงานวิจัยจาก Gallup Organization พบว่า 5 สิ่งแรกที่คนไข้ต้องการจากหมอคือ



  1. ต้องการให้หมอสุภาพและใจดี (Nice & Kind)

  2. ไม่ต้องการรอนานเกิน 20 นาที

  3. ต้องการรู้สึกเหมือนมีใครที่ใส่ใจเขาจริงๆ

  4. ต้องการให้หมอสื่อสารในภาษาที่เข้าใจง่าย

  5. ต้องการให้หมอให้บางอย่างที่เขาสามารถทำเองได้ที่บ้าน


คิดว่าคนไข้ที่ไหนๆ ก็คงเหมือนกันนี้ สิ่งที่เป็นปัญหามากๆ ผมว่าคือการที่ต้องรอนานกว่า 20 นาที คงต้องบริหารเวลาให้ดีมากๆ เท่านั้น เพราะแค่พูดคนก่อนหน้าเกินมา 2-3 นาทีถ้า 10 คนก็เกินซะแล้ว


อีกอย่างที่แกแนะนำคือควรปฏิบัติตาม 10S ของ Professionalism



  • Smooth: อารมณ์มั่นคงสม่ำเสมอ ไม่อุทาน "อุ๊ย" "เฮ้ย" อันนี้พยายามทำอยู่ แต่บางทีก็หลุด แฮะๆ

  • Speak: มีทักษะที่ดีในการพูดจา

  • Smart: บุคลิกภาพดี สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น (แกบอกว่าคนเราจะประทับใจตั้งแต่ 30 วินาทีแรก จากรอยยิ้มและการแต่งกาย และถ้าเขาประทับใจก็จะบอกต่อ ถ้าไม่ประทับใจก็จะบอกต่อเหมือนกันแต่ใส่พริกใส่ขิงด้วย)

  • Smile: ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส

  • Small: ทำหน้าที่ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน

  • Special: ต้องไม่มองว่าตัวเองพิเศษ แต่ต้องมองว่าผู้รับบริการนั้นพิเศษ (แกเล่าว่าอารมณ์เดียวกับที่ "กิ๊ก" มีแต่ "เมียหลวง" ไม่มี นั่นแหละ)

  • Speed: ต้องรวดเร็ว

  • Superb: บริการไม่ธรรมดา เหนือความคาดหมาย เช่น คุยกับญาติให้ด้วยเป็นต้น

  • Save: ประหยัดและปลอดภัย

  • Spirit: มีน้ำใจ เอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ ทั้งต่อผู้รับบริการและผู้ร่วมงาน

เนื้อย่างอิซูมิ

ชุดเนื้อย่างอิซูมิสำหรับมื้อกลางวัน
ราคา 109 บาท
มีเนื้อหนึ่งจาน หมูหนึ่งจาน ข้าวผัดกระเทียม ยำสาหร่าย ซุปเต้าเจี้ยว ชาเขียวหนึ่งแก้ว
ห้างเซนจูรี่ ชั้นสอง
รส: เนื้อเต็มปากเต็มคำ ชิ้นใหญ่ น้ำจิ้มรสพอใช้ ข้าวผัดกระเทียมเติมได้ ยำสาหร่ายอร่อย ชาเขียวจืด *หัวเหม็นมาก* (ควันเต็มร้าน)
Rate: 3.5/5 (หักค่าหัวเหม็น) แต่คุ้มราคาดี มีบุฟเฟต์ 299 ที่มีกุ้ง หอยด้วยแต่ไม่ได้กิน

ไปต่ออายุใบขับขี่

ต่ออายุใบขับขี่

วันนี้ไปต่ออายุใบขับขี่มาครับ ขอเขียนไว้เผื่อมีคนไม่ทราบ ของเดิมผมเป็น 5 ปี ไปต่ออีก 5 ปีครับ

สิ่งที่ต้องใช้

  • ใบขับขี่ของเดิม ตัวจริง
  • บัตรประชาชน ตัวจริง
  • สำเนา บัตรประชาชน 1 ชุด เซ็นชื่อ และเขียนชื่อภาษาอังกฤษไว้ด้วย (เพราะบัตรแบบใหม่จะมีชื่อภาษาอังกฤษอยู่บนบัตรด้วย)
  • ใบรับรองแพทย์ ตัวจริง (ไม่มีก็มาหาผม เอ้ย.. มีคลินิกแถวนั้นออกให้ได้เหมือนกัน)
  • ส่วนสำเนาทะเบียนบ้าน เตรียมไปก็ดีครับ แต่ไม่ได้ใช้
  • เงิน 605 บาท (ค่าถ่ายรูป 100, ค่าเอกสาร 5, ค่าต่ออายุ 5 ปี 500)
เริ่มแรกก็ไปที่ตึก 4 ชั้น 2 ของกรมการขนส่งทางบกเลยครับ อยู่ด้านหลังๆ หน่อย ถ้าไปแทกซี่ก็ให้เขาไปส่งข้างใน ถ้าไปเองที่จอดรถไม่ค่อยมีครับ ส่วนถ้ามารถไฟฟ้าจะต่อรถมอเตอร์ไซค์สิบบาทก็ได้ แต่ผมเดินเอา (แค่พอเหนื่อย ไม่ไกลมาก) ผมไปที่กรมการขนส่งที่จตุจักรเนื่องจากเดินทางสะดวกกว่า (จริงๆ แล้วเมื่อก่อนเขตผมต้องถ่อไปบางขุนเทียน.. ทั้งๆ ที่จตุจักรใกล้กว่าและสะดวกกว่าเยอะ แต่ตอนนี้ถ้าต่ออายุเขาให้ต่อที่ไหนก็ได้ครับ)เดินขึ้นบันไดพอถึงชั้นสองเสร็จก็ยื่นเอกสารให้ประชาสัมพันธ์ด้านขวา แล้วเขาจะตรวจสอบเอกสาร แล้วมาให้เข้าคิวเช็คเอกสารกับคอมพิวเตอร์บริเวณด้านในครับ รอคิวนานหน่อย เพราะคนเยอะ

พอส่งเอกสารเสร็จ เขาจะให้เราขึ้นไปตรวจวัดสายตาที่ชั้น 3 ครับ การตรวจมีสามด่าน
  • ด่านแรก ทดสอบตาบอดสี โดยเขาจะชี้วงกลมสีบนบอร์ดให้อ่าน เหลือง แดง เขียว อะไรทำนองนี้ครับ (ใครสายตาสั้นเอาแว่นไปด้วยเพราะจุดสีมันติดๆ กันเดียวจะมองปลายไม้ไม่ถูก)


  • ด่านสองมีทดสอบสองอย่าง อย่างแรกคือให้ใช้เท้าขวาเหยียบคันเร่งให้สุด แล้วจะมีไฟสีแดงปรากฎแว่บขึ้นมา (เสมือนว่ามีอะไรตัดหน้ารถ) ให้เหยียบเบรกทันที ทดสอบความไวครับ ส่วนอย่างที่สองคือตรวจเรื่องการกะระยะจากสายตา โดยเขาจะให้กดปุ่มเพื่อเลื่อนไม้สองอันให้มาอยู่ในแนวเดียวกัน (ใครสายตาสั้นก็ใส่แว่นได้)




  • ด่านสุดท้ายเขาจะดูลานสายตาครับ คือมีกรอบให้เราเอาคางอยู่กับที่ จ้องไปข้างหน้าคล้ายตอนตัดแว่น จะมีแสงออกมาจากข้างๆ ซ้ายและขวา ให้บอกว่าแสงด้านซ้ายและด้านขวาสีอะไรมั่ง


ใครที่พลาดช่วงไหนเขาจะมีให้รอสอบซ่อมได้ครับ และเมื่อเสร็จแล้วเขาจะให้อบรมต่อที่ชั้น 4 ครับ จะเป็นการดูวิดีโอความรู้เกี่ยวกับการขับรถ ผมว่าวิดีโอนี่ดูแล้วสนุกดีเหมือนกันครับ มีกลิ่นของคนรุ่นใหม่พอสมควร ไม่น่าเบื่อเท่าไหร่ โดยวิดีโอจะเป็นละคร สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับกฎจราจรครับ นักแสดงก็แสดงได้ดีครับ (ไตเติ้ลนี่ใช้กราฟฟิคสามมิติอารมณ์ประมาณไตเติ้ลของดีวีดีที่ออกขายตามท้องตลาดเลยทีเดียว เพลงประกอบก็เอาพวกเพลงบรรเลงประกอบละครเกาหลีตามยุคมาใช้ ดูแล้วทึ่งมากๆ สงสัยกรมฯ จะหมดตังค์ผลิตไปเยอะเลย)

พอเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไร (จริงๆ เห็นมีคนบอกว่าต้องสอบข้อเขียน ก ข ค ง ด้วย ผมไม่เห็นยักกะได้สอบ) แค่ลงมารอชั้นสอง รอจ่ายตังค์ ถ่ายรูป เป็นอันเสร็จพิธี กลับบ้านได้

สรุปเวลาที่ใช้ไปทั้งหมด ผมไปถึงตอน 9.00 น. เสร็จ 12.00 น. พอดี นับว่าเร็วกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว (จริงๆ แล้วนั่งดูหนังสนุกดีเหมือนกัน)

The Power of Dual Wide Screens

ซื้อมาใช้ได้หลายเดือนแล้วครับ รู้สึกว่าจอ Wide Screen 1920x1080 ของ BenQ 21" นี่คุ้มค่าสมราคามากๆ (ซื้อมา 5,800 ตอนนี้ที่ JIB เหลือ 4 พันปลายๆ ซะแล้ว) ปกติไว้เปิด Word จอเดียว (แต่สองหน้าแบบในภาพ) วันนี้ดันมีงานที่ต้องทำจาก PowerPoint ด้วยก็เลยเปิดไว้ข้างๆ โน้ตบุ๊คซะเลย เท่ากับว่าทำงานได้เต็มที่จริงๆ ใครต้องทำงานเอกสาร และหลายโปรแกรมบ่อยๆ ผมว่าเป็นสิ่งจำเป็นเลยทีเดียวครับ!

เกม Plants vs Zombies

วันก่อนเจอเกม casual ออกใหม่ Plants vs Zombies เป็นเกมจากค่ายเดิม PopCap ลองเล่นดูแล้ว ติดมากๆ 555 เนื่องจากว่ากราฟฟิคและเพลงมันเจ๋งดี นอกจากนี้แล้วคำพูดในเกมก็ฮาเหมือนกัน

วิธีเล่นง่ายๆ มากๆ แค่ป้องกันบ้านของเราจากซอมบี้ ที่จะเดินจากหน้าบ้าน ด้วยการปลูกต้นไม้ (จริงๆ แล้วก็คือเกมลักษณะ tower defense ที่ถอดแบบมาจากพวกที่อยู่ใน StarCraft/WarCraft นั่นแหละ) ต้นไม้นี่มีหลายชนิด แต่ละชนิดต้องการแสงแดดไม่เท่ากัน เราต้องพยายามเก็บแสดงแดดเพื่อสร้างต้นใหม่ไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีหลายฉากอีก เช่นฉากที่มีสระน้ำคั่นต้องปลูกใบบัวหรือพืชน้ำ, ฉากกลางคืนที่ต้องปลูกเห็ดแทน และฉากบนหลังคาบ้านที่ต้องอาศัยต้นแตงโมปาลูกแตงโมเป็นต้น (ทึ่งกับไอเดียเขาทีเดียว)

นอกจากตัวเกมหลักแล้วเกมนี้ยังมีมินิเกมเล็กๆ เช่น เกมตีไห, เกมที่เราเล่นเป็นซอมบี้เพื่อบุกบ้านแทน, โหมด endless เป็นต้น นับว่าคุ้มค่ากับ 225 บาททีเดียวครับ (ใครจะซื้อให้ใส่โค้ด PLANTS10 เพื่อลดราคาจาก 250 บาทเป็น 225 บาทได้ครับ) ผมเลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคะแนนรีวิวเกมใน metacritic ถึงได้ดีขนาด 8.9/10

ลองโหลด Demo มาเล่นกันก่อนก็ได้ครับ แล้วจะติดใจ อิอิ

ลองเล่น Star Tool ใน Inkscape

วันนี้ลองเล่นกับ Star Tool ใน Inkscape



พบว่าเครื่องมือนี้นี่น่าสนใจดีทีเดียว ถ้าปรับแต่งดีๆ เราก็ได้รูปที่แปลกๆ ไม่ใช่วาดได้แต่รูปหลายเหลี่ยมเพียงอย่างเดียว



ลองใช้กันดูนะครับ

แก้ปัญหา Inkscape Export เงาไม่ครบ

อันนี้เป็ปัญหาที่ผมเคยเจอมา คือใน Inkscape นี่เราสามารถ Export รูปออกมาเป็น .png ได้ครับ แต่ปัญหาคือ เวลาสั่ง แฟ้ม -> ส่งออกภาพบิตแมป แล้วเลือก "ส่วนที่เลือก" มันก็จะตัดเอาเฉพาะตัวรูป โดยที่ไม่เอาส่วนที่ blur หรือส่วนที่เส้นขอบ (stroke) ออกมา

ดังนั้นเมื่อ export เงาที่เราทำไว้ตอนที่แล้วออกมา มันเลยออกมาไม่ครบ ตัวอย่างเช่นผมสร้างสี่เหลี่ยมสองอัน อันนึงสีดำไว้ข้างหลัง + set blur ไว้ มันก็จะดูเหมือนเงาแบบนี้ใน inkscape



แต่ปรากฏว่าเมื่อเอา export เฉพาะส่วนที่เลือกแล้วมาดูกลับพบว่าเป็นแบบนี้



หายไปทั้ง เงา ทั้ง เส้นขอบเลย ลำบากแล้วใช่ไหมครับ มันมีเทคนิคแก้อยู่ครับ ที่ผมพอนึกออกก็มีสองแบบ

  • เลือก Export เป็น "กำหนดเอง" แต่วิธีนี้ลำบากมากเพราะต้องมานั่งคำนวณว่าจะเอาจากตรงไหนถึงตรงไหน แถมใน inkscape เนี่ยจุด 0,0 มันอยู่ล่างซ้าย ไม่เหมือนพวกโปรแกรมจัดหน้าทั่วไปอีก เง็งเต๊ก!
  • วาดสี่เหลี่ยมเป็นกรอบ แล้วค่อย export โดยให้ Fill เป็น none (คลิ๊กขวาตรง Fill ด้านล่าง แล้วเลือก "ลบสีพื้นออก) ส่วน Stroke เอาเป็นสีเทาอ่อนๆ ก็ดูพอไหว หรือจะลบ Stroke ออกไปเลยก็ได้ แล้ว export ทั้งหมดทีเดียว คราวนี้ก็จะมาครบแล้วครับ



ความรู้จากห่อขนมจาก

เคยได้ยินแต่ความรู้จากถุงกล้วยแขก วันนี้เจอเข้ากับตัวเองอย่างจังเลยครับ

ที่บ้านไปเที่ยวตลาดน้ำวัดดอนหวายมา ซื้อขนมจากมาฝาก แรกๆ ก็ไม่รู้สึกอะไร อร่อยดีแฮะเจ้านี้ ขณะกำลังจะทิ้งก็ดันเหลือบไปเห็นว่ากระดาษขาวๆ นี่มันมีด้านหลังด้วยนี่หว่า



พอแกะอ่านใกล้ๆ ถึงกับตะลึง! เฮ้ย อะไรกันเดี๋ยวนี้ความรู้จาก textbook ก็สามารถหาได้จากห่อขนมจากแล้วหรือนี่! (ส่วนไอ้กระดาษน้ำตาลแข็งๆ ที่รองอยู่ด้วยนี่ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่)





อ่านจบก็ทิ้งไป พร้อมกับคิดว่า เอ่อ อร่อยดี แถมได้ความรู้ด้วยแฮะ คราวหลังใครไปแวะซื้อมาฝากมั่งนะครับ :P จะหาหน้าต่อไปอ่าน

(c) Copyright 2015 Pawin Numthavaj. Powered by Blogger.