เมื่อคืนนี้ Apple ได้เปิดตัว Research Kit โดยโฆษณาว่ามันเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยนักวิจัยด้านการแพทย์ (Medical Research - บางทีเราจะใช้คำว่า Clinical Research ในกรณีที่เก็บคนไข้ที่เป็นคนจริงๆ เพราะ Medical Research นี่รวมทดลองทางการแพทย์ในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองด้วย) เพื่อนำไปในการเก็บข้อมูล และเพิ่มจำนวนคนที่สมัครใจเข้าร่วมงานวิจัย ผมในฐานะที่คลุกคลีอยู่กับวงการวิจัยทางการแพทย์ ขอแสดงความเห็นส่วนตัวจากคนที่เคยทำงานวิจัยมาบ้างเล็กน้อย ดังนี้ครับ
5 เหตุผลที่ ResearchKit ยังคงเป็นเพียงของเล่นไว้เพิ่มมูลค่าไอโฟน
Posted in clinical research, electronic data capture, iphone, medical research, research, research kit
สรุปทริป ฮอกไกโด กุมภาพันธ์ 2558
ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นอีกครั้งแล้วครับ (ช่วงนี้ถี่หน่อย แฮะๆ) ครั้งนี้เป็นทริปที่แพลนโดยเพื่อน ส่วนผมไปจอยเขาเฉยๆ ไม่ได้วางแผนการเที่ยวเองครับ แต่ก็แพลนไว้ได้ดี ได้เที่ยวหลายที่แทบไม่มีวันไหน fail เลย ทริปครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ไปฮอกไกโดครับ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่นโดยไม่ได้แวะโตเกียวเลยครับ ก็เลยขอลองสรุปทริปครั้งนี้ไว้นะครับ
วันแรก กรุงเทพ-สนามบินชินชิโตเสะ-ฮาโกดาเตะ
Posted in Asahikawa, Hakodate, Hokkaido, Japan, Kiroro, Otaru, Sapporo, Snow festival, travel, trip, Winter festival
สรุปทริป โยโกฮาม่า ปีใหม่ 2558
ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาอีกแล้วครับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คราวนี้ผมไปคนเดียวล้วนๆ เพราะว่าตอนแรกนัดเพื่อนที่โน่นไว้ แล้วพอดีเขาเปลี่ยนใจจะกลับเมืองไทยตอนที่ผมจะไปพอดี แต่ก็คิดไว้แล้วว่าจะไปพักกับบ้านคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่นที่เป็นญาติห่างๆ ซึ่งแกเป็นพ่อกับแม่ของสามีของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องผมครับ
ไปญี่ปุ่นกับครอบครัว (2) ตามหาฟูจิ.. ไม่เจอ T_T
กลับมาทริปญี่ปุ่นกันต่อนะครับ (ดองเค็มมากมาย) ตอนนี้จะกล่าวถึงวันที่สองครับ หลังจากวันแรกที่ผมถึงโตเกียว เนื่องจากแม่ต้องประชุมต่ออีกวันหนึ่ง ผมเลยไปเที่ยวตามหาฟูจิกับพ่อและน้องครับ
ที่ที่เลือกไปดูฟูจิครั้งนี้ก็ยังคงเป็นทะเลสาบ Kawaguchi (河口湖, Kawaguchi-ko) เหมือนเดิมกับคราวเมื่อสงกรานต์ที่ไปกับเพื่อนครับ เพราะรู้สึกว่าไปง่ายดีด้วยรถไฟครับ
การไปทะเลสาบนี้ไปได้สองวิธี คือรถบัส กับรถไฟครับ ผมเลือกที่จะไปรถไฟเพราะชอบนั่งรถไฟ แล้วก็รู้สึกว่าสะดวกสบายกว่ารถบัสครับ (ระยะเวลาไม่ห่างกันมากนักครับ แต่รถบัสจะถูกกว่า และไม่ต้องต่อรถไฟ)
ระบบ Self-Checkout ที่ Central Food Hall at Central World
วันนี้ได้ลองใช้ระบบ Self-Checkout หรือจ่ายเงินอัตโนมัติที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ Central World อีกครั้งครับ
ระบบนี้เพิ่งจะเอาเข้ามาใช้ที่นี่ได้สักประมาณ 1-2 เดือนนี้เอง ในต่างประเทศมีมาแล้ว 2-3 ปี แต่ก็น่าสนใจดีครับ ผมลองใช้มาสองทีแล้ว เลยขอพิมพ์เก็บเป็นข้อมูลเล่นๆ ดูครับ
เครื่องปัจจุบันที่ใช้อยู่ที่ Central Food Hall ที่ Central World นั้นมีอยู่ทั้งหมด 6 เครื่องครับ โดยหน้าตาของเครื่องคล้ายๆ กับเครื่องนี้เลย
กล่าวคือ เราจะต้องเอาตะกร้าเราไปวางที่ด้านขวามือของเครื่อง (ใครเข็นรถเข็นมาของเยอะๆ อด ต้องไปใช้ระบบจ่ายกับแคชเชียร์ตามปกติ) หลังจากนั้นเครื่องจะต้อนรับเราด้วยการให้กดปุ่มเริ่มกระบวนการบนจอ แล้วก็ให้เรารูดบัตรสมาชิกของซูเปอร์มาร์เก็ต (หรือใส่เบอร์โทรศัพท์สมาชิก)
พอเสร็จแล้วก็ถึงเวลาสแกนสินค้าในตะกร้าทีละชิ้นๆ ครับ โดยเราต้องหาบาร์โค้ด วางให้เครื่องสแกน แล้วก็เอาของที่สแกนเสร็จแล้วไปวางด้านซ้ายมือของเครื่อง เมื่อวางของแล้วเครื่องถึงจะอนุญาตให้เราสแกนชิ้นต่อไปได้ (ใช้ระบบดูน้ำหนักว่ามีของวางใหม่)
เมื่อสแกนครบแล้ว ก็กดปุ่มบนหน้าจอก็จะเข้าขั้นตอนจ่ายเงิน ในตอนนี้มีแต่ให้จ่ายผ่านบัตรเครดิต โดยเราก็จะต้องรูดบัตรเครดิตที่เครื่องหนึ่งครั้ง (คิดว่าคงไว้ดูรหัสหน้าบัตร) หลังจากนั้นถึงจะเสียบบัตรเพื่ออ่านชิพกับเครื่องรูดปกติ
ถ้าเราซื้อของน้อยกว่า 700 บาท กระบวนการรูดนั้นก็จะเสร็จเลย ไม่ต้องมาเซ็นยืนยันอะไรอีกครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าถ้าเกินกว่านั้นอาจจะต้องเซ็นชื่อกำกับด้วย
อย่างไรก็ดีหลังจากที่ใช้มาสองครั้งนี้ ผมพบว่ามีปัญหา และข้อควรเปลี่ยนแปลงดังนี้ครับ
- ขั้นตอนในการสแกน ค่อนข้างดูยากเล็กน้อย จะต้องหันสินค้าให้ตรงกับที่จะสแกน
- บางครั้งสแกนแล้วมันจะขึ้น Error ซึ่งต้องให้พนักงานมาปลดล็อก ถึงจะสแกนอันถัดไปได้ (ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงขึ้น Error) ปัญหาคือมันขึ้นบ่อยมาก ผมซื้อของสิบชิ้น Error สักสี่ห้าชิ้นได้ ก็แทบไม่ต่างจากให้พนักงานสแกนให้
- ระบบจ่ายเงิน ยังไม่ลิงค์กับระบบใช้คูปองลดราคา ทำให้ใครมีคูปองแล้วจะใช้ ก็ต้องไปใช้ช่องปกติ
- ใครซื้อของเยอะๆ ก็ไม่สามารถใช้ระบบนี้ได้ จำกัดแค่ของตะกร้าเดียว
- ช่องเวลาไม่มีคน ว่างมากเสียจนไม่แน่ใจว่าช่องมันใช้ได้จริงหรือเปล่า (คนคงกลัวเดินเข้าไปแล้วเงิบ พอผมเดินเข้าไปใช้ปุ๊บ มีคนมาลองบ้างปั๊บ)
Posted in payment, self check-out, shopping, supermarket